top of page
  • Writer's pictureekitchn blog

วิธีการเลือกซื้อหม้ออัดแรงดัน

Updated: Aug 10, 2021



สำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อหม้ออัดแรงดันครั้งแรกว่าควรจะเลือกซื้อหม้ออัดแรงดัน ขนาดเท่าไร? เป็นแบบใช้กับเตาแก๊สหรือแบบไฟฟ้าดี? หม้ออัดแรงดันที่ดีควรมีส่วนประกอบอะไรบ้าง? วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่าง และความคล้ายคลึงกัน ระหว่างหม้ออัดแรงดันเตาแก๊ส กับหม้ออัดแรงดันไฟฟ้า และประเด็นในการพิจารณาเลือกซื้ออย่างละเอียด เพื่อให้ทุกๆท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ว่าหม้ออัดแรงดันแบบไหน ที่เหมาะกับคุณและครอบครัว ตามไปดูกันเลยครับ !!


"คำถามสุดฮิตที่มีคนถามเข้ามาตลอดก็คือ จะซื้อหม้ออัดแรงดันแบบตั้งเตาก๊ส หรือซื้อแบบใช้ไฟฟ้าดี...."


การตั้งค่าความดันและแรงดันสูงสุด

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สปัจจุบันจะมีแบบที่ปรับปริมาณแรงดันได้ 2 ช่วง สำหรับอาหารประเภทผักที่ต้องการเปื่อยน้อย(แรงดันน้อย) กับเนื้อสัตว์ที่ต้องการเปื่อยมาก(แรงดันมาก) กับแบบที่ปรับแรงดันไม่ได้ ซึ่งค่ามาตรฐานทั่วไปจะอยู่ที่ 80-100 kPa ในช่วงความดันสูงสุด และ 40-70 kPa ในแบบที่ปรับแรงดันต่ำได้ หม้ออัดแรงดันไฟฟ้ามีความดันสูงสุดแตกต่างกันในแต่ละผู้ผลิต และบางรุ่นจะมีโปรแกรมที่สามารถเพิ่ม-ลดแรงดันได้เอง แต่โดยส่วนใหญ่จะมีแรงดันสูงสุดอยู่ที่ 30-90 kPa

"ถ้าว่ากันด้วยแรงดันเพียวๆ หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจะมีแรงดันที่มากกว่าเล็กน้อยซึ่งหมายความว่าสามารถทำอาหารให้สุกและเปื่อยเร็วกว่า อีกทั้งด้วยสภาพทางกายภาพของหม้อจะสามารถคายความร้อนและปล่อยแรงดันออกได้เร็วกว่าด้วย"


การควบคุมความร้อน การจับเวลา และโปรแกรมทำอาหาร

ในการใช้งานหม้ออัดแรงดันเตาแก๊ส ผู้ปรุงอาหารจำเป็นต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับความร้อนควบคุมไฟเพื่อให้หม้อสร้างแรงดันไปถึงจุดสูงสุด เมื่อหม้อสร้างแรงดันถึงจุดสูงสุดแล้วคุณต้องหรี่ไฟลงเพื่อรักษาระดับแรงดันให้คงที่ และจะต้องเริ่มจับเวลาด้วยตนเองจนจบกระบวนการ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญและความคุ้นชินในการใช้งาน อีกทั้งไอน้ำที่พุ่งออกมาจะมีเสียงดังในบางรุ่นทำให้รู้สึกน่ากลัวเล็กน้อย สำหรับหม้ออัดแรงดันไฟฟ้า การควบคุมความร้อนเป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด ทุกตัวมีที่จับเวลา โดยบางรุ่นจะมีโปรแกรมทำอาหารอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถควบคุมทั้งแรงดันและทั้งเวลาตามโปรแกรมการใช้งานอีกด้วย ผู้ปรุงอาหาร เพียงเลือกโปรแกรม หรือตั้งเวลาให้เหมาะสมกับเมนูที่ต้องการเท่านั้นแล้วกด “เริ่ม" โดยไม่ต้องเฝ้า ไม่ต้องปรับไฟหรือจับเวลาเลย หม้อจะทำทุกอย่างเองโดยอัตโนมัติจนจบกระบวนการ


"ในข้อนี้หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าได้เปรียบกว่ามาก เพราะใช้งานได้เพียงกดเลือกโปรแกรมหรือหมุนตั้งเวลาก็สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆได้โดยไม่ต้องเฝ้า ไม่เสียเวลาเหมือนหม้อเตาแก๊ส แถมในบางรุ่นยังสามารตั้งเวลาล่วงหน้าได้ เพียงใส่ส่วนผสมแล้วตั้งเวลาไว้ เมื่อถึงเวลาที่กำหนดตัวหม้อจะทำงานเองโดยอัตโนมัติสามารถตั้งหุงข้าวไว้ตั้งแต่ก่อนนอนได้เลย"


เวลาที่ใช้ถึงจุดสร้างแรงดัน และเวาลาในการประกอบอาหาร

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจะใช้เวลาในการสร้างแรงดันไปถึงจุดสูงสุด ประมาณ 11 นาที ขึ้นอยู่กับแหล่งความร้อน และปริมาณของส่วนผสม โดยเฉลี่ยแล้วหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจะเร็วกว่าการปรุงอาหารทั่วไปประมาณสามเท่า หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะใช้เวลาในการสร้างแรงดันไปถึงจุดสูงสุด ประมาณ 14 นาที แตกต่างกันไปตามจำนวนวัตต์กำลังไฟฟ้า และปริมาณของส่วนผสม


"โดยเฉลี่ยแล้วหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะเร็วกว่าการปรุงอาหารทั่วไปประมาณสองเท่า หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจึงสร้างแรงดันไปถึงจุดสูงสุดได้เร็วกว่าและใช้เวลาในการประกอบอาหารน้อยกว่า"


การคลายแรงดัน

โดยทั่วไปแล้วหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจะใช้เวลาในการคลายแรงดันน้อยกว่า Normal Release - ประมาณ 2 นาที, Natural Release - ประมาณ 10 นาที หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะใช้เวลาคลายแรงดันมากกว่า Normal Release - ประมาณ 3 นาที, Natural Release - ประมาณ 25 นาที


"จะเห็นได้ว่าหากปล่อยให้หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าคลายแรงดันออกตามธรรมชาติ จะใช้เวลานานกว่าถึงสองเท่าเพราะหม้อมีผนังหุ้มภายนอกอีกหนึ่งชั้น และไม่สามารถเปิดน้ำราดให้หม้อเย็นตัวลงอย่างรวดเร็วได้เหมือนหม้ออัดแรงดันเตาแก๊ส"


ความหลากหลายในการใช้งาน

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สสามารถใช้เป็นหม้อหุงต้มธรรมดา ต้ม ผัด ทอดได้โดยไม่ปิดฝา ในขณะที่หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าบางรุ่นจะสามารถเปิดฝาตั้งเวลาเพื่อให้หม้อทำความร้อนได้ แต่ก็ไม่สามารถเร่งความร้อนได้แบบเตาแก๊ส


การจัดเก็บ

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สสามารถเก็บไว้กับหม้อและกระทะทั่วไปได้ ในขณะที่หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าต้องการพื้นที่วางบนเคาน์เตอร์ อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่และสูงทำให้เก็บในตู้ได้ยาก


แหล่งความร้อน

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สสามารถใช้กับเตาแก๊ส, เตาไฟฟ้า, เตาแม่เหล็กไฟฟ้า, เตาตั้งแคมป์ได้ ส่วนหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าสามารถทำงานได้โดยใช้ไฟฟ้าเท่านั้น


วัสดุและความทนทาน

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สมีให้เลือกทั้งแบบอลูมิเนียมและสแตนเลส หม้อสแตนเลสมีความทนทานสูงและยากต่อการเสียหายและมักจะมีอายุ 10 ปีขึ้นไป หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าส่วนใหญ่ตัวถังด้านนอกจะทำจากพลาสติกทนความร้อน หม้อในมักทำจากอะลูมิเนียมที่มีการเคลือบสารกันติด หรือสแตนเลส โดยมีแผงควบคุมและวงจรอิเล็คโทรนิคที่เสื่อมสภาพตามการเวลาได้เร็วกว่า


อะไหล่

ระหว่างการใช้งานหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สอาจต้องเปลี่ยนปะเก็นและชิ้นส่วนซิลิโคนอื่น ๆ สามารถซื้อได้จากผู้ผลิต หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะต้องเปลี่ยนปะเก็นและชิ้นส่วนซิลิโคนอื่น ๆ เช่นกัน รวมทั้งหม้อในแบบเคลือบสารกันติดอาจจะหลุดร่อนเมื่อใช้ไปนานๆ และมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเสื่อมสภาพได้ตามเวลา


"ไม่ว่าจะเป็นหม้ออัดแรงดันแบบไหนก็ควรจะจะเป็นรุ่นที่มีตัวแทนในประเทศ เพื่อสามารถติดตามเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ได้ในอนาคต"


กลศาสตร์

แม้ว่าเวลาหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะใช้เวลาในการสร้างแรงดันนานกว่าหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สเพียงไม่กี่นาที (14 เทียบกับ 11 นาที) แต่การปล่อยแรงดันตามธรรมชาติจะใช้เวลามากกว่าสองเท่า (25 เทียบกับ 10 นาที) เนื่องจากไม่สามารถถอดฐานออกได้จากแหล่งความร้อน (ขดลวดไฟฟ้าต้องใช้เวลาในการทำความเย็น) นอกจากนี้โครงสร้างผนังสองชั้นที่มีลักษณะคล้ายกระติกน้ำร้อนของหม้ออัดแรงดันไฟฟ้ายังป้องกันการสูญเสียความร้อนและยืดเวลาในการเปิดออกไป


"แต่นี่เป็นข้อดี เมื่อขดลวดทำงาน ความร้อนที่เกิดขึ้นจะไม่กระจายออกไปในห้องครัว ทำให้มีประสิทธิภาพในการสร้างและกักเก็บความร้อนมากขึ้นทำให้ประหยัดไฟมากกว่าหม้อไฟฟ้าปกติอย่างมาก"


"ประเด็นต่างๆที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกหม้ออัดแรงดัน"


ประเภทของวาล์ว

สำหรับหม้ออัดแรงดันเตาแก๊ส ควรเลือกวาลว์แบบสปริง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดเพราะวาล์วที่ใช้ลูกตุ้มน้ำหนัก(Jigger Valve)แบบเก่า จะมีเสียงดังจากไอน้ำและเสียงกระพือของตุ้มน้ำหนักที่สั่นตลอดเวลาการสร้างแรงดัน วาลว์แบบสปริงรุ่นใหม่จะมีเพียงไอน้ำเล็กน้อยซึ่งส่งเสียงรบกวนน้อยกว่ามาก

ส่วนหม้ออัดแรงดันไฟฟ้า ให้เลือแบบวาล์วลูกลอย ซึ่งเงียบและไม่มีเสียงดังขณะหม้อสร้างแรงดันเลย เพราะวาลว์และลูกลอยในหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าไม่ได้มีหน้าที่ควบคุมแรงดัน หม้อจะควบคุมความร้อนและปริมาณแรงดันด้วยระบบวงจรควบคุม


วัสดุหม้อใน

วัสดุที่ใช้ทำหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สควรเป็นสแตนเลสเกรดที่ใช้ทำอาหาร เพราะหม้อที่เป็นแบบอลูมิเนียมราคาถูก ไม่เพียงแต่บุบง่าย แต่ยังมีปฏิกริยากับอาหารที่เป็นกรด (มะเขือเทศ, มะนาว, ไวน์) ทำให้รสชาดเปลี่ยน ในกรณีหม้ออัดแรงดันไฟฟ้า หม้อในจะใช้แบบสแตนเลส หรือแบบที่เคลือบด้วยสารกันติด พวก Non-stick, Marble, Hardanodize ก็จะสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วย


การตั้งค่าความดัน

ควรเลือกหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สที่ปรับตั้งค่าคามดันได้สองแบบ “ ความดันสูง” สำหรับเนื้อสัตว์, ถั่วและอาหารที่ต้องการให้เปื่อยนุ่มมากและ“ ความดันต่ำ” สำหรับ ปลา, ไข่, ผัก และอาหารทะเล ที่ไม่ต้องการให้นิ่มมาก สำหรับหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าบางรุ่นจะสามารถปรับปริมาณแรงดันขึ้นลงให้เหมาะสมกับอาหารได้เองเพียงกดปุ่มเดียวซึ่งจะใช้งานง่ายกว่ามาก


เลือกผู้ผลิตที่เชื่อถือได้

การใช้งานหม้ออัดแรงดันก็เหมือนกับอุปกรณ์อื่นทั่วไป ที่จะมีชิ้นส่วนสึกหรอและจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นครั้งคราว เช่น ปะเก็น หรือยางซิลิโคนรองฝา มักจะมีอายุ 18-24 เดือน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่เราแนะนำให้ท่านซื้อหม้ออัดแรงดันจากแบรนด์ที่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศ มีหลักแหล่งสามารถติดต่อได้ เพื่อให้คุณสามารถติดตามซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ หรือส่งซ่อมได้เมื่อจำเป็น เพราะส่วนมากอะไหล่ที่ใช้งานจะเป็นเฉพาะรุ่นเท่านั้นไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ เพราะคุณอาจจะซื้อหม้อราคาถูกได้ทั่วไป แต่ก็อาจจะกลายเป็นขยะที่ไม่มีค่าในเวลาไม่กี่เดือน


จำนวนวัตต์​(กรณีหม้อไฟฟ้า)

สำหรับหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าวัตต์ยิ่งสูงหม้อก็จะยิ่งร้อนถึงแรงดันเร็วขึ้น แต่สำหรับรุ่นที่หมุนตั้งเวลาแบบไม่มีระบบควบคุมแรงดันอัตโนมัติหรือปรับแรงดันได้ ก็จะมีข้อพิจารณาว่าหม้อที่มีวัตต์สูงหรือตั้งเทอร์โมสตัทให้ร้อนเร็ว ก็อาจทำให้อาหารไหม้ได้ เพราะก้นหม้อจะร้อนเกินไป เช่น การหุงข้าวสวย หรือหุงข้าวเหนียว


ควรจะซื้อหม้ออัดแรงดันขนาดเท่าไรดี?

เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน การใช้งานหม้ออัดแรงดันที่ถูกต้องควรเติมอาหารไม่เกินกว่า 2/3 ของหม้อ สำหรับอาหารทั่วไป และ ไม่เกิน 1/2 ของหม้อ สำหรับธัญพืชและถั่ว (เนื่องจากอาหารเหล่านี้ขยายตัวและเกิดฟองระหว่างการปรุงอาหารในช่วงก่อนสร้างแรงดัน) นี่คือตารางตัวอย่างส่วนผสมเปรียบเทียบกับอาหารแต่ละอย่างที่คุณมักทำเพื่อครอบครัวเพื่อช่วยคุณในการเลือก

หลักการง่ายๆ คือคำนวณ 1 ลิตรต่อคนในครัวเรือน ดังนั้นหม้อขนาด 2-3 ลิตร จะมีขนาดกระทัดรัดสำหรับ ครอบครัวขนาดเล็ก และ 6 ลิตรก็จะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่


"แต่ความใหญ่ไว้ก่อนไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เพราะการทำอาหารด้วยแรงดันต้องการปริมาณของเหลวเพื่อสร้างแรงดันภายในหม้อ หม้อขนาด 2 ลิตร ต้องใช้ของเหลวประมาณ 1/2 ถ้วย (หรือน้อยกว่า) เพื่อให้ได้แรงดัน ส่วนหม้อ 6 ลิตร อาจต้องการของเหลว 1 ถ้วย (หรือมากกว่า) ดังนั้นปริมาณส่วนผสมที่น้อยเกินไปในหม้อใบใหญ่อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้หม้อสร้างแรงดัน คุณจึงควรเลือกหม้ออัดแรงดันที่เล็กที่สุดสำหรับความต้องการในการทำอาหารของคุณ อีกทั้งหม้อใบใหญ่มีโลหะมากกว่าซึ่งจะต้องใช้เวลาในการทำความร้อนนานขึ้น จะใช้เวลาในการสร้างแรงดันนานขึ้น และมันจะใหญ่ทั้งการทำความสะอาดและการจัดเก็บ"


บทสรุป

หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สเหมาะที่สุดสำหรับ...
  • ผู้ที่ต้องการความเร็ว เนื่องจากมีแรงดันสูงกว่า ร้อนเร็วและความแรงดันออกได้เร็วกว่าหม้ออัดแรงดันไฟฟ้า

  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความทนทานมากกว่าความสะดวก - หม้อไฟฟ้าสามารถอยู่ได้หลายปี แต่หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจะมีอายุหลายสิบปีหลายชั่วอายุคน

  • ผู้ที่ต้องการใช้เทคนิคการปรุงอาหารด้วยความดันขั้นสูง - หลายคนต้องการความดันที่สูงขึ้นและการระเหยที่มากกว่าของหม้ออัดแรงดันเตาแก๊ส

หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าเหมาะที่สุดสำหรับ...
  • ผู้ที่กังวลกับการใช้เตาแก๊สหรือปรับเร่งไฟจากเตาไฟฟ้า เพราะสำหรับหม้ออัดแรงดันไฟฟ้านี้ เพียงใส่ส่วนผสมทั้งหมด ปิดฝา กดเลือกโปรแกรมหรือหมุนตั้งเวลาการทำงาน ตัวหม้อก็จะทำงานให้เองอัตโนมัติจนเสร็จสิ้นกระบวนการ โดยไม่ต้องเฝ้า สามารถทิ้งไว้แล้วไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้เลย

  • ผู้ที่ชอบทำอาหารโดยใช้เครื่องไฟฟ้า เช่น หม้อต้ม ตุ๋น หม้อหุงข้าว- หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะแทนที่ได้ทั้งหมด

  • คุณพ่อบ้านแม่บ้านที่มีงานยุ่ง สามารถปรุงอาหารล่วงหน้าได้ เมื่อเดินเข้าประตูบ้าน ก็จะประทับใจกับระบบตั้งหน่วงเวลาในการปรุงอาหารที่มีให้ในบางรุ่นซึ่งจะทำอาหารเย็นไว้ให้พร้อม เมื่อกลับถึงบ้าน

  • แม่บ้านยุคใหม่ที่มีห้องครัวที่จำกัด หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าเป็นเครื่องมือทำอาหารที่สมบูรณ์แบบโดยนอกจากการทำอาหารโดยใช้แรงดันแล้ว บางรุ่นยังสามารถผัดหรืออุ่นอาหาร หรือบางรุ่นสามารถอบได้

  • สำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อนจากเปลวไฟ ไม่จำเป็นต้องจำไว้ว่าเตาเปิดหรือปิดอยู่หรือไม่ หม้อหุงจะปิดตัวเองหลังจากปรุงอาหาร และหากมีความดันอยู่ก็จะไม่สามารถเปิดฝาออกได้ ด้านนอกของหม้อไม่ร้อน ไม่ต้องกลัวพองตอนจับที่ด้านนอกของหม้อ

  • สำหรับพ่อครัวผู้เชี่ยวชาญ การใช้หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าก็ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการตั้งเตาแก๊สไปได้


ความเห็นจากผู้เขียน...


หม้ออัดแรงดันเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ผมแนะนำให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านที่รักการทำอาหาร ควรจะมีติดไว้ที่บ้านไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งเตาแก๊ส หรือใช้ไฟฟ้าก็แล้วแต่ เพราะเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาทำอาหารได้มากและยังได้รสชาดและสารอาหารมากกว่าการทำอาหารด้วยวิธีปกติอีกด้วย


หม้ออัดแรงดันสมัยใหม่ทำงานคล้ายกันมาก กุญแจสำคัญในการเลือกซื้อ คือ ให้ดูจากงบประมาณ ความต้องการ และทักษะในการทำอาหารมาประกอบกัน คำถามแรกที่คุณต้องถามตัวเองคือ:

ฉันต้องการหม้อความดันไฟฟ้าหรือหม้อหม้ออัดแรงดันที่ใช้กับเตาแก๊สกันแน่


หม้ออัดแรงดันเตาแก๊สมีข้อดีที่มีความรวดเร็วกว่า สามารถเปิดฝาใช้เป็นหม้อต้มอาหารได้ แต่ขณะใช้งานก็ต้องคอยเฝ้าปรับความแรงของไฟและจับเวลาในการทำแรงดันเองซึ่งเสียเวลาทำมาหากินมาก ดูเหมือนว่าในความเป็นจริงหม้ออัดแรงดันเตาแก๊สจะเหมาะกับคนที่ว่างมากหรือพ่อครัวแม่ครัวที่ทำอาหารเป็นอาชีพมากกว่า


"สำหรับเราๆที่ต้องออกหาเช้ากินค่ำออกไปทำงานนอกบ้านเป็นประจำแล้ว หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าดูจะเหมาะสมกว่า เพราะไม่ต้องปรับไฟ ไม่ต้องคน ไม่ต้องเฝ้า ไม่ต้องกลัวนำ้แห้ง หรือแรงดันเกิน

เพียงใส่ส่วนผสม ปิดฝา แล้วกดปุ่มทิ้งไว้ ก็สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆได้เลย หม้อจะทำทุกอย่างให้เองอัตโนมัติ แถมในบางรุ่นก็มีระบบอุ่นทิพย์ที่ช่วยให้เราเปิดรับประทานอาหารร้อนๆได้ตลอดเวลา

หรือหากพิเศษกว่านั้น ในบางรุ่นสามารถตั้งเวลาล่วงหน้าได้ เราสามารถใส่ข้าวใส่น้ำตั้งเวลาทิ้งไว้ก่อนนอน หม้อจะติดขึ้นทำงานตามเวลาที่ตั้งไว้ ทำให้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อหุงข้าวให้ลูกๆ

ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาข้าวสวยร้อนๆก็พร้อมรับประทานได้ทันที อีกทั้งหม้ออัดแรงดันแบบไฟฟ้าไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้แก๊ส หรือเตาความร้อนที่เป็นอันตรายสำหรับเด็กๆ

ไม่ว่าจะทำอาหารเป็นหรือไม่ หากเตรียมส่วนผสมได้ถูกต้องก็ทำอาหารด้วยหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าได้ทุกคน"


อย่างไรก็ดี ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียของหม้ออัดแรงดันทั้งสองประเภท และมีเพียงคุณเท่านั้นที่ตัดสินใจได้ว่าแบบไหนเหมาะกับการทำอาหารประเภทที่คุณชอบที่สุด สุดท้ายแล้วในหัวข้อนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น


“จงเลือกหม้ออัดแรงดันที่เหมาะกับการใช้งานและสไตล์ของคุณ”





278 views0 comments

Commentaires


วิธีการเลือกซื้อหม้ออัด
bottom of page